Forex Trader Group .Co.Ltd
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556
เรื่องจริง 10 ข้อที่บอกความเป็นตัวตนของ forex
" Forex " หรือที่ผมรู้จักก็คือ ตลาดค่าเงิน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ซึ่งแม้ในปัจจุบันก็ยังไม่หลุดพ้นลำดับความเป็น "เม่า" เกิดข้อสงสัยว่าทำไม เมื่อไหร่ และ นานแค่ไหน เป็นคำถามที่ผมได้พยายามค้นหาคำตอบเรื่อยมา สิ่งที่ผมจะบอกเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดจากทัศนคติของผม ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเพราะตลาด forex
Forex เป็นตลาดที่อ่อนไหวได้ง่าย ถูกควบคุมด้วยความโลภและความกลัวของฝูงชน เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นใครต่อใครเทรดได้เกิน 100 % ของทุน แต่ยากที่จะเห็นกว่าที่จะเห็นคนเหล่านั้นรักษาเงินที่เกิดจากการ over-trade ให้ได้สืบไป ทำให้พึงระลึกได้ว่าตลาดนี้ไม่ทำให้ใครรวยอย่างรวดเร็ว กลายเป็นอัตราส่วนที่ไม่แน่นอน ว่า 3 /100 จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จจากตลาดค่าเงินนี้
เข้าเรื่อง**
ข้อที่ 1 ตลาดนี้เปลี่ยนแปลงอารมณ์อยู่เสมอ เพราะฉะนั้น หากคิดที่จะเป็น 3 % จะต้องหมั่นศึกษาอ่านข่าว และดูกราฟอยู่เสมอ
ข้อที่ 2 อย่าเข้าออเดอร์บ่อยๆ เพราะยิ่งคุณเข้าออเดอร์บ่อยๆ โอกาสที่จะขาดทุนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อที่ 3 เข้าสู่ตลาดในจุดที่ตัวเองรับความเสียงได้ สรุป คือ ต้องรอ จุดที่เรามั่นใจว่ากราฟจะมาถึง เช่น ในเทรนขาลง ให้รอกราฟขึ้นไปปรับฐาน เพราะไม่มีหุ้นตัวใดที่วิ่งโดยไม่หยุดพัก อย่ากลัวที่จะเข้าออเดอร์ไม่ทัน
ข้อที่ 4 การทำ MM นั้นสำคัญมาก จงทำ MM ก่อนเทรดทุกครั้ง เทคนิดในการทำ MM ของผมคือ เทรด 0.1 % ของเงินที่มีทั้งหมด จงรู้ว่าตอนนี้คุณเทรดด้วยลอตเท่าไหร่ ขาดทุนได้กี่จุด และอย่าลืมกำหนดเป้าหมายกำไรให้ชัดเจนว่าจะเอากี่จุด
ข้อที่ 5 cut loss ให้เป็น คำถามคือคุณ cut loss กันที่ กี่ % ของทุน อันนี้อยู่ที่แต่ล่ะคนแล้วครับ เพราะหากคุณเป็น technical แล้วเล่น scalping แล้ว cut loss ก็จะเร็วหน่อย แต่ถ้าเป็น fundamental อาจจะช้าหน่อย ทั้งนี้ต่างกันที่ lot และความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ข้อที่ 6 ความสำเร็จในอดีตไม่ได้บอกความสำเร็จในอนาคต เมื่อก่อนเทรดได้ มั่นใน เพิ่ม lot เพิ่มความเสี่ยง ผลออกมา DD ล้าง ทำไม?? ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามข้อนี้ มีเพียงคติที่ว่า หากทุกคนเป็นคนเก่ง ก็ไม่มีใครขาดทุน
ข้อที่ 7 Indicator แหมๆ พูดถึงสิ่งเหล่านี้ทุกคนคงรู้จัก ทั้ง MA , MACD ,RSI ,OSI ใครไม่เข้าใจก็มีสำนักจัดสอนเยอะแยะ ราคาเป็นกันเอง แต่จะมีซีกกี่คนที่รู้อย่างแท้จริง Indicator ทุกตัวย่อมมีที่หากินและที่ตาย หากรู้จักใช้ก็จะรู้เวลาหนี หากไม่รู้จักใช้ก็เจ้ง ปล. ดินดิเคเตอร์ส่วนมากที่ผมเคยใช้มาจะแพ้ความเป็นเทรน แต่ไม่ใช่ทุกตัวน่ะ
ข้อที่ 8 let profile run 555 หากรู้จักคำนี้ก็จะไม่มีคำว่า กุไม่น่ารีบขายหมูเลย เซงๆๆ อดๆ ทำยังไงล่ะ ผมมีวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้นอกจากการศึกษาความเป็นไปได้ของราคาแล้วก็คือ การเปิดลอตบวก เช่น ปกติคุณเทรด lot 10 ก็ให้แบ่ง lot 10 ออกเป็น lot 1 จำนวน 10 ตัว เช่นเมื่อคุณได้ PF รวม 1000 ที่จุดนี้ แต่คุณกลัวว่ากราฟจะไปต่อ อีกอย่าก็กลัวว่าจะขาดทุนในกำไร ก็ให้ปิดออเดอร์ ซํก 8 ตัว ก็ได้กำไรแล้ว 800 เหลือก็ถือต่อ เป็นการปกป้องผลกำไร ชัดๆ
ข้อที่ 9 จิตวิทยา ทำไมๆๆ ทำไมต้องรู้ โอ้ยๆ เคยสงสัยป่าวว่าทำไมชอบมีแท่งยาวๆ ตลอดๆเป็นระยะๆ จริงๆมันมีชื่อเรียกน่ะแท่งเหล่านี้ เรียกว่าแท่งธนาคาร ชื่อก็บอกว่าของใคร ทีนี้รู้แล้วยังว่าทำไมต้องอ่านจิตวิทยา
ข้อที่ 10 ข้อนี้ของผมไม่เหมือนใคร จำไว้ว่า วิทยาศาสตร์ คือธรรมชาติ และคือหุ้น ในขณะเดียวกัน ผมยกตัวอย่างเรื่องเดียวเท่านั้นที่เห้นได้ชัดคือ action = reaction ของ พี่ไอสไตน์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มีแรง short ก็ต้องมีแรง long ตามนั้น สองอย่างนี้ทำให้ตลาดเกิดความเป้นวัฐจักร มีขึ้นก็ต้องมีลง
เห้อๆ เหนื่อยๆ ก่อนลากันไป ผมขอฝากคำกล่าวของพี่ภาววิทย์ กลิ่นประทุม หน่อยคับที่กล่าวไว้ว่า "ตอนเรียนใช้เงิน+เวลาเพื่อหา ความรู้ , ตอนทำงาน ใช้เวลา+ความรู้เพื่อหาเงิน, สุดท้าย เราก็ต้องใช้เงิน+ความรู้ เพื่อหาเวลา" ถูกต้องที่สุด
ซึ่งตอนนี้ผมอยู่ในขั้น 1 ไป 2 แบบกึ่งๆ .....
ขอบคุณคับ
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556
การใช้ RSI( Relative Strength Index)
RSI เป็นเครื่องมือวัดการแกว่งของตลาดอีกเหมือนกัน ซึ่ง RSI จะให้สัญญาณที่ช้ากว่า อินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆ แต่เป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างที่จะแม่นยำเลยทีเดียว การใช้ RSI โดยส่วนใหญ่ก็จะใช้ดู Overbought /Oversold เหมือนกัน และดู
Divergence เช่นเดียวกัน การดูDivergence ด้วย RSI เป็นที่นิยมกันมาก
เพราะมันจะให้ค่าที่แม่นตรงมากๆ โอกาสที่จะพลาดมีน้อย เพราะว่า RSI
จะวิ่งเป็นรอบที่ใหญ่มากตามค่าที่เราตั้ง ถ้าเราตั้งค่า
14 ราคาวิ่งลงหนึ่งรอบ rsi จะวิ่งแค่สองรอบ ซึ่งแตกต่างจาก sto
ที่วิ่งเป็น สิบๆรอบ นี่คือเหตผลที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้ RSI
เป็นเครื่องมือในการทำกำไร
การใช้ Trendline




ต้าน รอง Minor Support Trendline Minor Resistance Trendline และแนวรับแนวต้านหลัก คือการลาก ตั้งแต่ช่วงเวลา 4 H ไปจนถึง Month เราจะเรียกว่า Major Support Trendline & Major Resistance Trendline
วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556
วิเคราะห์ 5เมษา56 ปัจจัยที่น่าติดตาม
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี เตือนว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงตกอยู่ในความเสี่ยง
สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับมูลค่าของสกุลเงินเยนอย่างมาก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ
สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับมูลค่าของสกุลเงินเยนอย่างมาก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 5 เมษายน 2556 09:39:41 น.
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นลดลง 4.45 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.25436 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศหดตัวลงคือมูลค่าของสินทรัพย์สกุลเงินยูโรที่ปรับลดลง จากการอ่อนค่าของยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในระยะดังกล่าว
ทั้งนี้ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศญี่ปุ่นหลักๆประกอบด้วย หลักทรัพย์ เงินฝากสกุลต่างประเทศ และทองคำ รวมถึงเงินสำรองและเงินสกุลเงิน SDR ที่ญี่ปุ่นถือครองในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นลดลง 4.45 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.25436 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศหดตัวลงคือมูลค่าของสินทรัพย์สกุลเงินยูโรที่ปรับลดลง จากการอ่อนค่าของยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในระยะดังกล่าว
ทั้งนี้ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศญี่ปุ่นหลักๆประกอบด้วย หลักทรัพย์ เงินฝากสกุลต่างประเทศ และทองคำ รวมถึงเงินสำรองและเงินสกุลเงิน SDR ที่ญี่ปุ่นถือครองในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ส่วนวันนี้ที่คิดว่าอาจมีปัญหา
ปัจจัยที่น่าติดตาม
ทางฝั่งยุโรป
- 16.00น. การประมาณการณ์ GDP ไตรมาส 4/2555
ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา
- 19.30น. ยอดดุลการค้า
- ** 19.30น. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม **
- ** 19.30น. อัตราการว่างงาน **
- 16.00น. การประมาณการณ์ GDP ไตรมาส 4/2555
ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา
- 19.30น. ยอดดุลการค้า
- ** 19.30น. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม **
- ** 19.30น. อัตราการว่างงาน **
วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556
Price Action คืออะไร?
Price Action คือศาสตร์ที่ว่าด้วยการสังเกตพฤติกรรมของราคาที่กระทำกับเครื่องมือ, Indicators, Support & Resistance ที่มีนัยสำคัญ ส่วนมากแล้วเมื่อใดที่เกิด price action เกิดขึ้นนั่นมักจะเป็นสัญญาณที่มีนัยสำคัญว่า "ราคามีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเทรน ย้ำ! ว่าแค่เป็นไปได้เฉย ๆ อาจจะไปต่อหรือกลับตัวก็ได้" Price Action นั้นประกอบไปด้วยการสังเกตกราฟ Bar Chart หรือ Candlestick Chart Patterns 4 รูปแบบคือ Inside Bar, Outside Bar, Pin Bar และ Fakey Setup
Price Action คือศาสตร์ที่ว่าด้วยการสังเกตพฤติกรรมของราคาที่กระทำกับเครื่องมือ, Indicators, Support & Resistance ที่มีนัยสำคัญ ส่วนมากแล้วเมื่อใดที่เกิด price action เกิดขึ้นนั่นมักจะเป็นสัญญาณที่มีนัยสำคัญว่า "ราคามีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเทรน ย้ำ! ว่าแค่เป็นไปได้เฉย ๆ อาจจะไปต่อหรือกลับตัวก็ได้" Price Action นั้นประกอบไปด้วยการสังเกตกราฟ Bar Chart หรือ Candlestick Chart Patterns 4 รูปแบบคือ Inside Bar, Outside Bar, Pin Bar และ Fakey Setup
วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556
วางแผนเป็นชนะไปครึ่งทาง ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากโชค
วางแผนเป็น...ชนะไปครึ่งทาง
หลักการวางแผนนั่นจริงๆแล้วมีมากมาย
หลังจากการได้เรียนรู้จากประสบการณ์และจากการอ่านตามหนังสือต่างๆ กฏข้อใหญ่ๆมักจะพูดเสมอ
ให้คิดเสมอๆ การเข้าครั้งนี้จะไม่ขาดทุน (เพื่อเตือนสติให้ตัวเอง)
รักษาเงินต้นไว้ให้ดี
ควรทำอย่างไรจึงได้กำไร (หลักอะไรบ้าง วิธีใดบ้าง เวลา จังหวะ ความเหมาะสม)
และควรเทรดอย่างไรให้เทรดได้ผลกำไรต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
1 อย่าพยายามเทรดในช่วงที่เราไม่รู้ (ช่วงที่อ่านกราฟไม่ออก มองไม่ชัดเจน กราฟไม่สวย ไม่แน่ใจ...)
2 อย่ารีบจนเกินไปและยื้อการขาดทุน ( อย่าปล่อยให้ความโลภยืนเหนือเหตุผล และขาดทุนเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็กลับมา)
3 อย่าต่อต้าน แนวโน้มหลัก ( กราฟมักจะมีแนวโน้มเสมอๆ ระยะสั้นๆอาจจะsideway แต่ระยะเวลามากขึ้นยังคงเป็นขาขึ้นอยู่..)
4 จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง ( ทำอย่างไรเพื่อให้ขาดทุนน้อยลง ทำอย่างไรที่จะหาวิธีในการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ เรียนรู้ความผิดพลาด ตลาดสอนอะไรเรา ตัวไหนที่มักจะทำกำไรให้เราเสมอๆ หาเหตุและผล เพราะอะไร)
5 ทำการบ้านก่อนเทรดเสมอๆ จดและบันทึกลงสมุด ( มองกราฟ วิเคราะห์กราฟจาก 1d --->4h--->1h--->30h--->15m ความสัมพันธ์เป็นยังไง เริ่มลงทุนควรเริ่มที่เท่าไหรก่อน ตามความเหมาะสมของลักษณะกราฟว่ามั่นใจแค่ไหน หลายๆคนมักจะมองข้ามการจดบันทึก จดตัวที่เราสนใจจุดไหนน่าสนใจ ถ้าเข้าแล้วจุดไหนควรออกยอมตัดขาดทุน แนวรับแถวไหนแนวต้านแถวไหน มาถึงตรงนี้ถึงเข้าเลื่อนลงไปตัดขาดทุนทันที หลายๆคนมักมองข้ามแบบแผนนี้เสมอๆ ส่วนใหญ่มักเปิดกราฟแล้วเทรดเลยเป็นวิธีคิดที่หยาบเกินไปยังไม่ละเอียดพอ)
6 มีสมาธิในช่วงนั่นๆ (เงินทำเงินควรตั้งใจและมีสมาธิ)
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)